เชื้อราแมว เรื่องน่าระวังที่มากับฝน - ศูนย์การสัตวแพทย์ PKAH รังสิต
Last updated: 25 Aug 2025
16 Views
เชื้อราแมว เรื่องน่าระวังที่มากับฝน
️โรคเชื้อราแมว (Ringworm หรือ Dermatophytosis) เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในแมว และมักกำเริบหรือแพร่ระบาดได้ง่ายเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูง ความชื้นที่มากับหน้าฝนทำให้น้องแมวมีโอกาสเปียกฝน หรือหากอาบน้ำแล้วเป่าขนไม่แห้งสนิท จะเกิดภาวะอับชื้นที่ผิวหนังและขน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างยิ่งให้เชื้อราโดยเฉพาะชนิด Microsporum canis เจริญเติบโตได้ดี
️ สัญญาณเตือนของเชื้อราแมว
ทาสแมวสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นของเชื้อราในน้องแมวได้ ดังนี้:
- ขนร่วงเป็นหย่อม: เป็นอาการเด่นที่พบบ่อย โดยมักเริ่มจากจุดเล็ก ๆ และขยายเป็นวงกว้าง
- ผิวหนังแดง ลอก หรือมีสะเก็ด: บริเวณที่ขนร่วง ผิวหนังจะมีลักษณะแดง มีขุย หรือเป็นสะเก็ด
- อาการคัน: น้องแมวจะเกาหรือเลียบริเวณที่เป็นบ่อยผิดปกติ
- ผื่นขึ้นเป็นวง: บางกรณีอาจเห็นเป็นวงกลมบนผิวหนัง ขอบวงอาจมีขุย
หากไม่รีบรักษา เชื้อราอาจลุกลามมากขึ้น และที่สำคัญคือ เชื้อราแมวสามารถติดต่อสู่คนได้ เมื่อคนสัมผัสกับน้องแมวที่เป็นโรค จะเกิดผื่นแดงเป็นวง มีขุยและอาการคันตามผิวหนังได้
️ การดูแลและป้องกันในช่วงหน้าฝน
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดความอับชื้นและรักษาความสะอาด ดังนี้:
- เช็ดตัว/เป่าขนให้แห้งสนิททันที: หากน้องแมวเปียกฝน หรือหลังอาบน้ำ ต้องเป่าขนให้แห้งสนิททุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะแมวขนยาว ควรใช้ผ้าขนหนูแห้งสะอาดซับน้ำออกก่อน แล้วตามด้วยการเป่าด้วยไดร์เป่าผม (ใช้ลมเย็นหรืออุ่นอ่อน ๆ เพื่อไม่ให้ผิวหนังไหม้)
จัดการพื้นที่อยู่อาศัย:
- หลีกเลี่ยงที่อับชื้น: ไม่ควรปล่อยให้น้องแมวเดินหรือนอนในบริเวณที่เปียกหรืออับชื้น
- รักษาความสะอาด: หมั่นทำความสะอาดบ้าน พรม โซฟา หรืออุปกรณ์ของเล่นที่น้องแมวสัมผัสเป็นประจำ เพื่อกำจัดสปอร์เชื้อรา
️ หมั่นสังเกตอาการ: ตรวจดูผิวหนังและขนของน้องแมวเป็นประจำ หากพบอาการขนร่วง ผิวหนังลอก หรือเกาบ่อย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
️ วัคซีน: ปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องวัคซีนป้องกันเชื้อรา ซึ่งบางตัวสามารถฉีดเพื่อช่วยป้องกันหรือช่วยในการรักษาได้
- แนวทางการรักษาเมื่อน้องแมวติดเชื้อรา การรักษาต้องทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเชื้อราอาจต้องใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน และมีความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้
สัตวแพทย์อาจแนะนำการรักษาหลายวิธีควบคู่กันไป เช่น:
- ยาทาภายนอก/สเปรย์ฆ่าเชื้อรา: ทาบริเวณที่เป็นผื่น
- แชมพูฆ่าเชื้อรา: ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ Miconazole หรือ Ketoconazole เพื่ออาบน้ำ
- ยากินต้านเชื้อรา: ในกรณีที่เป็นรุนแรงหรือลุกลาม อาจต้องใช้ยาในกลุ่ม Terbinafine หรือ Itraconazole โดยต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสัตวแพทย์อย่างเข้มงวด
ข้อควรระวัง: ห้ามซื้อยามาให้น้องแมวกินเองเด็ดขาด เพราะยาฆ่าเชื้อราบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงต่อตับของน้องแมวได้
การดูแลน้องแมวในช่วงหน้าฝนจึงต้องใส่ใจเรื่องความแห้งและความสะอาดเป็นพิเศษ เพื่อให้เจ้านายของเรามีสุขภาพผิวหนังที่ดีและปลอดภัยจากเชื้อรา
____________________________
ศูนย์การสัตวแพทย์ PKAH รังสิต
️โรคเชื้อราแมว (Ringworm หรือ Dermatophytosis) เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยในแมว และมักกำเริบหรือแพร่ระบาดได้ง่ายเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนที่มีความชื้นสูง ความชื้นที่มากับหน้าฝนทำให้น้องแมวมีโอกาสเปียกฝน หรือหากอาบน้ำแล้วเป่าขนไม่แห้งสนิท จะเกิดภาวะอับชื้นที่ผิวหนังและขน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างยิ่งให้เชื้อราโดยเฉพาะชนิด Microsporum canis เจริญเติบโตได้ดี
️ สัญญาณเตือนของเชื้อราแมว
ทาสแมวสามารถสังเกตอาการเบื้องต้นของเชื้อราในน้องแมวได้ ดังนี้:
- ขนร่วงเป็นหย่อม: เป็นอาการเด่นที่พบบ่อย โดยมักเริ่มจากจุดเล็ก ๆ และขยายเป็นวงกว้าง
- ผิวหนังแดง ลอก หรือมีสะเก็ด: บริเวณที่ขนร่วง ผิวหนังจะมีลักษณะแดง มีขุย หรือเป็นสะเก็ด
- อาการคัน: น้องแมวจะเกาหรือเลียบริเวณที่เป็นบ่อยผิดปกติ
- ผื่นขึ้นเป็นวง: บางกรณีอาจเห็นเป็นวงกลมบนผิวหนัง ขอบวงอาจมีขุย
หากไม่รีบรักษา เชื้อราอาจลุกลามมากขึ้น และที่สำคัญคือ เชื้อราแมวสามารถติดต่อสู่คนได้ เมื่อคนสัมผัสกับน้องแมวที่เป็นโรค จะเกิดผื่นแดงเป็นวง มีขุยและอาการคันตามผิวหนังได้
️ การดูแลและป้องกันในช่วงหน้าฝน
การป้องกันที่ดีที่สุดคือการลดความอับชื้นและรักษาความสะอาด ดังนี้:
- เช็ดตัว/เป่าขนให้แห้งสนิททันที: หากน้องแมวเปียกฝน หรือหลังอาบน้ำ ต้องเป่าขนให้แห้งสนิททุกซอกทุกมุม โดยเฉพาะแมวขนยาว ควรใช้ผ้าขนหนูแห้งสะอาดซับน้ำออกก่อน แล้วตามด้วยการเป่าด้วยไดร์เป่าผม (ใช้ลมเย็นหรืออุ่นอ่อน ๆ เพื่อไม่ให้ผิวหนังไหม้)
จัดการพื้นที่อยู่อาศัย:
- หลีกเลี่ยงที่อับชื้น: ไม่ควรปล่อยให้น้องแมวเดินหรือนอนในบริเวณที่เปียกหรืออับชื้น
- รักษาความสะอาด: หมั่นทำความสะอาดบ้าน พรม โซฟา หรืออุปกรณ์ของเล่นที่น้องแมวสัมผัสเป็นประจำ เพื่อกำจัดสปอร์เชื้อรา
️ หมั่นสังเกตอาการ: ตรวจดูผิวหนังและขนของน้องแมวเป็นประจำ หากพบอาการขนร่วง ผิวหนังลอก หรือเกาบ่อย ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์
️ วัคซีน: ปรึกษาสัตวแพทย์เรื่องวัคซีนป้องกันเชื้อรา ซึ่งบางตัวสามารถฉีดเพื่อช่วยป้องกันหรือช่วยในการรักษาได้
- แนวทางการรักษาเมื่อน้องแมวติดเชื้อรา การรักษาต้องทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์อย่างเคร่งครัด เพราะเชื้อราอาจต้องใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน และมีความเสี่ยงที่จะกลับมาเป็นซ้ำได้
สัตวแพทย์อาจแนะนำการรักษาหลายวิธีควบคู่กันไป เช่น:
- ยาทาภายนอก/สเปรย์ฆ่าเชื้อรา: ทาบริเวณที่เป็นผื่น
- แชมพูฆ่าเชื้อรา: ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ Miconazole หรือ Ketoconazole เพื่ออาบน้ำ
- ยากินต้านเชื้อรา: ในกรณีที่เป็นรุนแรงหรือลุกลาม อาจต้องใช้ยาในกลุ่ม Terbinafine หรือ Itraconazole โดยต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสัตวแพทย์อย่างเข้มงวด
ข้อควรระวัง: ห้ามซื้อยามาให้น้องแมวกินเองเด็ดขาด เพราะยาฆ่าเชื้อราบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงต่อตับของน้องแมวได้
การดูแลน้องแมวในช่วงหน้าฝนจึงต้องใส่ใจเรื่องความแห้งและความสะอาดเป็นพิเศษ เพื่อให้เจ้านายของเรามีสุขภาพผิวหนังที่ดีและปลอดภัยจากเชื้อรา
____________________________
ศูนย์การสัตวแพทย์ PKAH รังสิต
Tags :
Related Content
ป้องกันสัตว์เลี้ยงสูญหาย: ไมโครชิปทำหน้าที่เป็นบัตรประจำตัวถาวรของสัตว์เลี้ยง หากสัตว์เลี้ยงหลงทางและมีคนเก็บได้ เจ้าหน้าที่หรือสัตวแพทย์สามารถใช้เครื่องสแกนเพื่ออ่านรหัสในชิปและนำข้อมูลเจ้าของที่ลงทะเบียนไว้มาติดต่อกลับได้ ยืนยันความเป็นเจ้าของ: ช่วยในการยืนยันตัวตนของสัตว์เลี้ยงในกรณีที่มีข้อพิพาทเรื่องการครอบครอง หรือเมื่อมีการซื้อขายสัตว์เลี้ยงที่มีราคาสูง เช่น สุนัขหรือแมวสายพันธุ์แท้
31 Aug 2025
สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รู้จักจากนิสัยที่อ่อนโยน เป็นมิตร และซื่อสัตย์ พวกมันฉลาดมากและเรียนรู้ได้เร็ว ทำให้ฝึกง่าย เป็นสุนัขในอุดมคติสำหรับครอบครัวที่มีเด็ก แต่ต้องหมั่นแปรงขนเป็นประจำเพื่อป้องกันขนพันกัน และออกกำลังกายเป็นประจำเพื่อไม่ให้น้ำหนักเกิน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสก็อตแลนด์ ขึ้นชื่อเรื่องความฉลาด เป็นมิตร และมีอุปนิสัยที่อ่อนโยน ทำให้เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสุนัขเลี้ยงในบ้าน สุนัขช่วยเหลือคนตาบอด หรือสุนัขกู้ภัย
31 Aug 2025
ทำไมอยู่ๆน้องสุนัขถึงมีก้อนฝีระเบิดที่แก้มละหมอ น้องไม่ได้โดนตัวอะไรกัดต่อยเลยนะ สาเหตุที่พบได้บ่อยคือ น้องเป็น "ฝีรากฟัน" ค่ะ เกิดจากมีหินปูนสะสมที่ฟันเยอะๆ แล้วติดเชื้อเข้าไปในโพรงรากฟัน พอติดเชื้อก็กลายเป็นฝีระเบิดออกไปที่แก้มนั่นเอง
31 Aug 2025