สุนัขติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือด ทำไมเกล็ดเลือดถึงต่ำ มีเลือดออกจมูกและปัสสาวะเป็นเลือด
อัพเดทล่าสุด: 19 ต.ค. 2025
41 ผู้เข้าชม
สุนัขติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือด ทำไมเกล็ดเลือดถึงต่ำ มีเลือดออกจมูกและปัสสาวะเป็นเลือด
พยาธิเม็ดเลือดในสุนัขที่พบบ่อยในไทย ได้แก่ E.canis , Anaplasma, Babisia และ hepatozoon โดยพบว่าพาหะที่สำคัญของการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดเหล่านี้คือ เห็บสีน้ำตาล โดยการกัดเพียงครั้งเดียว ก็สามารถส่งเชื้อให้กับสุนัขได้แล้ว แม้บางที เราอาจไม่ทันได้สังเกตเห็นว่า สุนัขเคยโดนเห็บกัด แล้วหรือยังครับ
เพราะวงจรชีวิตของเห็บจะอาศัยบนตัวสุนัข 3 ครั้ง โดยการกินเลือด เพื่อเจริญเติบโตและลงไปฟักตัวในสิ่งแวดล้อม ขึ้น และ ลง จนเป็นตัวเต็มวัยใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน
ดังนั้นจะต้องป้องกันเก็บอย่างน้อย 3 เดือน และต่อเนื่องด้วย : โดยเห็บจะอยู่ในสิ่งแวดล้อม 80% อยู่บนตัวสุนัขเพียง 20% ดังนั้นการควบคุมเห็บจึงต้องควบคุมการติดเชื้อบนตัวสุนัข และสิ่งแวดล้อมที่สุนัขอยู่ด้วยครับ
อันตรายจากเห็บกัด ได้แก่ อันตรายจากเห็บ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เห็บมากัดและดูดเลือดจากสุนัขครับ เมื่อกัดและดูดเลือดจะมีแผล ก็จะเพิ่มการใช้เกล็ดเลือดไปอุดผนังหลอดเลือด
นอกจากนี้น้ำลายเห็บมีความพิเศษ คือสามารถยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือด , ยังยั้งการเคลื่อนที่ของเกล็ดเลือด จึงค้างในตับและม้ามนาน , ต่อต้านกระบวนการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้เลือดออกมาเรื่อย ๆ เห็บสามารถดูดเลือดได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ มีเซลล์อักเสบเข้ามาอีกมาก ๆ แต่ก็ไปกดการทำงานของเซลล์ที่ป้องกันการติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือดอีกด้วยครับ การติดเชื้อจึงเป็นไปแบบเรื้อรัง
โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดที่สำคัญคือ การติดเชื้อ E.canis ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะเฉียบพลัน ในช่วง 8-20 วันแรกของการติดเชื้อ จะพบอาการซึม เบื่ออาหาร มีไข้ พบจุดเลือดออก โดยหากไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ต่อเนื่องมีเชื้อหลงเหลืออยู่ จะพัฒนาเข้าสู่ระยะที่ 2
2. ระยะไม่มีอาการ ซึ่งใช้เวลานาน และหากภูมิคุ้มกันตกลง หรือมีอาการติดเชื้อซ้ำ จะเข้าสู่ ระยะเรื้อรัง
3. ระยะเรื้อรังที่เชื้อเข้าสู่ไขกระดูกไปกดการสร้างเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด และร่างกายตอบสนองทางระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้ออย่างรุนแรง เกิดการทำลายเกล็ดเลือดจากภูมิคุ้มกัน
สุนัขที่ติดเชื้อ E.canis เป็นเวลานาน จึงมักพบภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรงจากกลไกต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทำให้สุนัขเกิดเลือดออกจากเส้นเลือด มีเลือดออกจากร่างกาย เช่น เลือดออกจมูก ปัสสาวะเป็นเลือด, ถ่ายดำหรือถ่ายเป็นเลือด, มีเลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจุด ๆ หรือเป็นปื้นเลือด ซึ่งสุนัขอาจเสียชีวิตได้ จากภาวะเลือดจางอย่างรุนแรงครับ
ดังนั้น การติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือด จึงอาจไม่ใช่แค่เพียงกินยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือดเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่เกิดตามมาอันตรายถึงแก่ชีวิตมากกว่าครับ ที่คุณหมอจะต้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้นจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อที่มากเกินไป จนไปทำลายเม็ดเลือดแดง , เกล็ดเลือด หรือไปทำอันตรายต่อไต เกิดไตอักเสบหรือไตวายตามมา และต้องไม่ลืมการจัดการป้องกันเห็บไม่ให้เข้ามาติดเชื้อซ้ำอีกด้วย สิ่งที่จะต้องทำไปพร้อม ๆ กัน เพื่อการรักษาที่ครบวงจรครับ
_________________________
หากคุณกำลังมองหาบริการธนาคารเลือดสุนัขและแมวในพื้นที่รังสิต สามารถติดต่อที่เราได้
ศูนย์การสัตวแพทย์ PKAH รังสิต
PKAH Veterinary Center Rangsit
พยาธิเม็ดเลือดในสุนัขที่พบบ่อยในไทย ได้แก่ E.canis , Anaplasma, Babisia และ hepatozoon โดยพบว่าพาหะที่สำคัญของการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดเหล่านี้คือ เห็บสีน้ำตาล โดยการกัดเพียงครั้งเดียว ก็สามารถส่งเชื้อให้กับสุนัขได้แล้ว แม้บางที เราอาจไม่ทันได้สังเกตเห็นว่า สุนัขเคยโดนเห็บกัด แล้วหรือยังครับ
เพราะวงจรชีวิตของเห็บจะอาศัยบนตัวสุนัข 3 ครั้ง โดยการกินเลือด เพื่อเจริญเติบโตและลงไปฟักตัวในสิ่งแวดล้อม ขึ้น และ ลง จนเป็นตัวเต็มวัยใช้เวลาอย่างน้อย 3-6 เดือน
ดังนั้นจะต้องป้องกันเก็บอย่างน้อย 3 เดือน และต่อเนื่องด้วย : โดยเห็บจะอยู่ในสิ่งแวดล้อม 80% อยู่บนตัวสุนัขเพียง 20% ดังนั้นการควบคุมเห็บจึงต้องควบคุมการติดเชื้อบนตัวสุนัข และสิ่งแวดล้อมที่สุนัขอยู่ด้วยครับ
อันตรายจากเห็บกัด ได้แก่ อันตรายจากเห็บ เริ่มตั้งแต่ตอนที่เห็บมากัดและดูดเลือดจากสุนัขครับ เมื่อกัดและดูดเลือดจะมีแผล ก็จะเพิ่มการใช้เกล็ดเลือดไปอุดผนังหลอดเลือด
นอกจากนี้น้ำลายเห็บมีความพิเศษ คือสามารถยับยั้งการทำงานของเกล็ดเลือด , ยังยั้งการเคลื่อนที่ของเกล็ดเลือด จึงค้างในตับและม้ามนาน , ต่อต้านกระบวนการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้เลือดออกมาเรื่อย ๆ เห็บสามารถดูดเลือดได้ต่อเนื่อง อีกทั้งยังกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ มีเซลล์อักเสบเข้ามาอีกมาก ๆ แต่ก็ไปกดการทำงานของเซลล์ที่ป้องกันการติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือดอีกด้วยครับ การติดเชื้อจึงเป็นไปแบบเรื้อรัง
โรคที่เกิดจากการติดเชื้อพยาธิเม็ดเลือดที่สำคัญคือ การติดเชื้อ E.canis ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะเฉียบพลัน ในช่วง 8-20 วันแรกของการติดเชื้อ จะพบอาการซึม เบื่ออาหาร มีไข้ พบจุดเลือดออก โดยหากไม่ได้รับการรักษาหรือรักษาไม่ต่อเนื่องมีเชื้อหลงเหลืออยู่ จะพัฒนาเข้าสู่ระยะที่ 2
2. ระยะไม่มีอาการ ซึ่งใช้เวลานาน และหากภูมิคุ้มกันตกลง หรือมีอาการติดเชื้อซ้ำ จะเข้าสู่ ระยะเรื้อรัง
3. ระยะเรื้อรังที่เชื้อเข้าสู่ไขกระดูกไปกดการสร้างเม็ดเลือดและเกล็ดเลือด และร่างกายตอบสนองทางระบบภูมิคุ้มกันต่อเชื้ออย่างรุนแรง เกิดการทำลายเกล็ดเลือดจากภูมิคุ้มกัน
สุนัขที่ติดเชื้อ E.canis เป็นเวลานาน จึงมักพบภาวะเกล็ดเลือดต่ำอย่างรุนแรงจากกลไกต่าง ๆ ที่กล่าวมา ทำให้สุนัขเกิดเลือดออกจากเส้นเลือด มีเลือดออกจากร่างกาย เช่น เลือดออกจมูก ปัสสาวะเป็นเลือด, ถ่ายดำหรือถ่ายเป็นเลือด, มีเลือดออกใต้ผิวหนังเป็นจุด ๆ หรือเป็นปื้นเลือด ซึ่งสุนัขอาจเสียชีวิตได้ จากภาวะเลือดจางอย่างรุนแรงครับ
ดังนั้น การติดเชื้อพยาธิในเม็ดเลือด จึงอาจไม่ใช่แค่เพียงกินยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือดเพียงอย่างเดียว เพราะสิ่งที่เกิดตามมาอันตรายถึงแก่ชีวิตมากกว่าครับ ที่คุณหมอจะต้องเฝ้าระวังและควบคุมไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้นจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันที่ตอบสนองต่อการติดเชื้อที่มากเกินไป จนไปทำลายเม็ดเลือดแดง , เกล็ดเลือด หรือไปทำอันตรายต่อไต เกิดไตอักเสบหรือไตวายตามมา และต้องไม่ลืมการจัดการป้องกันเห็บไม่ให้เข้ามาติดเชื้อซ้ำอีกด้วย สิ่งที่จะต้องทำไปพร้อม ๆ กัน เพื่อการรักษาที่ครบวงจรครับ
_________________________
หากคุณกำลังมองหาบริการธนาคารเลือดสุนัขและแมวในพื้นที่รังสิต สามารถติดต่อที่เราได้
ศูนย์การสัตวแพทย์ PKAH รังสิต
PKAH Veterinary Center Rangsit
Tags :
บทความที่เกี่ยวข้อง
ภาวะโลหิตจาง (Anemia) คือภาวะที่สัตว์เลี้ยงมีปริมาณ เม็ดเลือดแดง และ ฮีโมโกลบิน น้อยกว่าปกติ ภาวะนี้ไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการที่บ่งชี้ว่าอาจมีโรคหรือความผิดปกติอื่นซ่อนอยู่ เนื่องจากฮีโมโกลบินทำหน้าที่ขนส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ภาวะโลหิตจางจึงส่งผลให้ร่างกายขาดออกซิเจน
13 ก.ย. 2025
เรามีธนาคารเลือดสุนัขและแมวที่พร้อมให้บริการเลือด (Fresh whole blood) และส่วนประกอบของเลือด (Blood components) และบริการถ่ายเลือดสุนัขและแมว ด้วยเลือดที่มีคุณภาพ มีการตรวจสอบทุกขั้นตอนตามมาตรฐานเทียบเท่าธนาคารเลือดของคน
7 ก.ย. 2025
ป้องกันสัตว์เลี้ยงสูญหาย: ไมโครชิปทำหน้าที่เป็นบัตรประจำตัวถาวรของสัตว์เลี้ยง หากสัตว์เลี้ยงหลงทางและมีคนเก็บได้ เจ้าหน้าที่หรือสัตวแพทย์สามารถใช้เครื่องสแกนเพื่ออ่านรหัสในชิปและนำข้อมูลเจ้าของที่ลงทะเบียนไว้มาติดต่อกลับได้ ยืนยันความเป็นเจ้าของ: ช่วยในการยืนยันตัวตนของสัตว์เลี้ยงในกรณีที่มีข้อพิพาทเรื่องการครอบครอง หรือเมื่อมีการซื้อขายสัตว์เลี้ยงที่มีราคาสูง เช่น สุนัขหรือแมวสายพันธุ์แท้
31 ส.ค. 2025